เวทีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้เกี่ยวกับนวัตกรรมสุขภาพร่วมกันระหว่างเครือข่ายคนทำงานเพื่อให้เกิดการพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ การประดิษฐ์นวัตกรรมสุขภาพใหม่ ๆ ที่สอดคล้องกับแต่ละบริบทการทำงานในระบบบริการปฐมภูมิ เกิดตัวอย่างรูปธรรมของเทคโนโลยีที่เหมาะสมที่หลากหลายสำหรับคนทำงานปฐมภูมิ และสามารถนำไปประยุกต์ใช้ให้เหมาะสมกับบริบทการทำงานแต่ละพื้นที่
โครงการนวัตกรรมส่งเสริมระบบบริการปฐมภูมิ
1. หลักการและเหตุผล ระบบบริการปฐมภูมิมีจุดเด่นอยู่ที่การดูแลสุขภาพอย่างเป็นองค์รวม ให้บริการแบบผสมผสาน ต่อเนื่อง โดยมีการทำงานร่วมกับชุมชน รวมทั้งเป็นระบบบริการที่เน้นการทำงานเชิงรุก ระบบบริการปฐมภูมิมีปรัชญาแนวคิดที่เน้นความใส่ใจและการดูแลรักษาร่วมกันระหว่างบุคลากรระบบบริการปฐมภูมิกับบุคคล ครอบครัวและชุมชน รวมทั้งการประสานงานเชื่อมโยงกับหน่วยงานบริการอื่น ๆ และการส่งต่อผู้ป่วยไปรับบริการที่เหมาะสม แม้ว่าแนวคิดดังกล่าวจะเป็นที่ยอมรับ แต่การแปลแนวคิดหลักการเชิงนามธรรมของระบบบริการปฐมภูมิเป็นปฏิบัติการยังเป็นไปอย่างจำกัด เหตุผลสำคัญเพราะเจ้าหน้าที่ขาดตัวอย่างรูปธรรมที่จะช่วยในการคิดค้นสร้างสรรค์การทำงานและเรียนรู้วิถีชีวิตในชุมชน นอกจากนั้น การขาดตัวอย่างรูปธรรมที่ดียังทำให้คุณค่าของงานปฐมภูมิไม่เป็นที่รับรู้อย่างเด่นชัด ทำให้คนทำงานขาดแรงบันดาลใจและไม่เห็นคุณค่าของงานที่ทำ การสร้างระบบบริการปฐมภูมิให้มีประสิทธิภาพจำเป็นต้องแปลแนวคิดสำคัญสู่การพัฒนาตัวอย่างรูปธรรมการทำงานให้เพิ่มมากขึ้น และพัฒนานวัตกรรมสุขภาพใหม่ ๆ ที่สอดคล้องกับการทำงานในแต่ละบริบท เพื่อนำมาเป็นตัวอย่างในการคิดค้นสร้างสรรค์การทำงานในพื้นที่รวมทั้งเป็นการสะสมรูปแบบนวัตกรรมที่หลากหลาย การเปิดพื้นที่ให้มีการพัฒนาและนำเสนอนวัตกรรมสุขภาพในระบบบริการปฐมภูมิจึงมีความสำคัญ นวัตกรรมที่เกิดขึ้นจะช่วยให้ระบบบริการปฐมภูมิมีตัวอย่างการเรียนรู้ที่หลากหลาย เหมาะสมกับสภาพการทำงานในชุมชนซึ่งมีความแตกต่างกันในแต่ละพื้นที่ สามารถนำมาเป็นทุนการพัฒนาระบบการดูแลสุขภาพปฐมภูมิ เพื่อสร้างคุณค่า สร้างมุมมอง สร้างเอกลักษณ์ให้กับการทำงานในระบบบริการปฐมภูมิ ทั้งทางสังคม วัฒนธรรม และวิถีชีวิตชุมชน เพื่อให้เกิดการพัฒนา สนับสนุน และเผยแพร่นวัตกรรมสุขภาพต่าง ๆ ให้เป็นประโยชน์กับหน่วยงานบริการปฐมภูมิ สำนักวิจัยสังคมและสุขภาพ สำนักนโยบายและยุทธศาสตร์ สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข จึงได้ดำเนินโครงการให้มีการนำเสนอหรือจัดแสดงนวัตกรรมสุขภาพ เพื่อเปิดกว้างให้เกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกันระหว่างเครือข่ายคนทำงานบริการปฐมภูมิ ตลอดจนเกิดการพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ ในการประดิษฐ์นวัตกรรมสุขภาพใหม่ ๆ ให้สามารถประยุกต์ใช้งานได้ดีสอดคล้องกับแต่ละบริบทการทำงาน และเป็นตัวอย่างรูปธรรมที่หลากหลายให้กับคนทำงานบริการปฐมภูมิ รวมทั้งเป็นการสร้างคุณค่า เปลี่ยนแปลงมุมมองภาพลักษณ์ให้กับระบบบริการปฐมภูมิ 2. วัตถุประสงค์ 2.1 เพื่อเป็นเวทีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้เกี่ยวกับนวัตกรรมสุขภาพร่วมกันระหว่างเครือข่ายคนทำงานระบบบริการปฐมภูมิ 2.2 เพื่อให้เกิดการพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ การประดิษฐ์นวัตกรรมสุขภาพใหม่ ๆ ที่สอดคล้องกับแต่ละบริบทการทำ งานในระบบบริการปฐมภูมิ 2.3 เพื่อให้เกิดตัวอย่างรูปธรรมของเทคโนโลยีที่เหมาะสมที่หลากหลายสำหรับคนทำงานปฐมภูมิ นำไปใช้คิดต่อ ปรับ ประยุกต์ให้เหมาะสมกับบริบทการทำงานแต่ละพื้นที่ 3. การดำเนินโครงการและกิจกรรม เพื่อให้โครงการบรรลุตามวัตถุประสงค์ จึงได้กำหนดแผนงานแบ่งออกเป็น 2 ขั้นตอน ดังนี้ กิจกรรมขั้นตอนที่ 1 ดำเนินการคัดเลือกนวัตกรรมสุขภาพและประชาสัมพันธ์ 1.1) จัดตั้งคณะกรรมการการคัดเลือกนวัตกรรมประกอบด้วยบุคลากรจากหลายฝ่าย เช่น บุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขที่มีความรู้ ประสบการณ์เกี่ยวกับนวัตกรรมสุขภาพ นักวิชาการด้านการแพทย์ สาธารณสุข และด้านสังคม 1.2) ประชาสัมพันธ์โครงการตามสื่อต่าง ๆ เช่น นิตยสารสุขศาลา เว็บไซต์ที่เกี่ยวข้อง และ ประชาสัมพันธ์ไปที่หน่วยงานต้นสังกัด 1.3) รับสมัครผลงานที่เป็นนวัตกรรมสุขภาพจากหน่วยงานที่สนใจเข้าร่วมโครงการ โดยแบ่งออกเป็น 2 ประเภท ดังนี้ 1.3.1 นวัตกรรมเชิงระบบการบริหารจัดการและการให้บริการสุขภาพ 1.3.2 นวัตกรรมสิ่งประดิษฐ์ 1.4) คณะกรรมการพิจารณาคัดเลือกนวัตกรรมที่ส่งเข้าร่วมโครงการ กิจกรรมขั้นตอนที่ 2 จัดเวทีแสดงนวัตกรรมและเอกสารเผยแพร่ 2.1) จัดเวทีแสดงนวัตกรรมจำนวน 300 ชิ้น ที่ผ่านการพิจารณาคัดเลือกทั้ง 2 ประเภท ในงาน “Community Health & Primary Care Expo 2009” 2.2) พิมพ์เอกสารเผยแพร่ผลงานนวัตกรรมสุขภาพ
7. ผลที่คาดว่าจะได้รับ 7.1 เกิดเวทีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้เกี่ยวกับนวัตกรรมสุขภาพร่วมกันระหว่างเครือข่ายคนทำงานระบบบริการปฐมภูมิ 7.2 เปิดมุมมองใหม่ๆ ในการทำงานด้านการบริหารจัดการและพัฒนาระบบบริการสุขภาพ รวมทั้งการคิดประดิษฐ์ นวัตกรรมสุขภาพใหม่ๆ ที่นำมาใช้ในงานบริการปฐมภูมิ 7.3 เกิดตัวอย่างรูปธรรมที่หลากหลายที่เกิดจากการแปลแนวคิดสำคัญของบริการปฐมภูมิสู่ปฏิบัติการการทำงานจริง เพื่อให้เจ้าหน้าที่หรือคนทำงานนำไปใช้พัฒนางานระบบบริการปฐมภูมิ รายละเอียดของนวัตกรรมระบบบริการปฐมภูมิ สามารถแบ่งออกเป็น 2 ประเภท ดังนี้ 1. นวัตกรรมเชิงระบบการบริหารจัดการและการให้บริการสุขภาพ มีคุณลักษณะดังต่อไปนี้ > นวัตกรรมด้านการบริหารงาน * นวัตกรรมด้านบริหารทรัพยากรบุคคล หรือการบริหารทีมงานระบบบริการปฐมภูมิ เช่น วิธีการหรือเทคนิคในการ บริหารทรัพยากรบุคคล/ทีม ฯลฯ * นวัตกรรมด้านการบริหารจัดการงานปฐมภูมิ คือ เทคนิค/วิธีการ การบริหารจัดการในหน่วยงาน เช่น การบริหาร ระบบข้อมูล ข่าวสาร โมเดลการบริหารจัดการงานต่าง ๆ การบริหารจัดการวัสดุครุภัณฑ์ อุปกรณ์ เครื่องมือในการ ทำงาน ฯลฯ * นวัตกรรมด้านการมีส่วนร่วมของชุมชนในงานระบบบริการปฐมภูมิ เช่น ทีมสหวิชาชีพ, อาสาสมัครสุขภาพ, ผู้นำ ชุมชน, ผู้นำศาสนา ฯลฯ > นวัตกรรมด้านการบริการสุขภาพ * นวัตกรรมด้านบริการสุขภาพ เช่น ระบบการดูแลรักษา,ช่องทางด่วนปฐมภูมิ,ระบบการส่งต่อผู้ป่วย ฯลฯ 2. นวัตกรรมสิ่งประดิษฐ์ มีคุณลักษณะดังต่อไปนี้ เป็นนวัตกรรมสิ่งประดิษฐ์ที่ช่วยในการพัฒนางานประจำและทำให้งานประจำสนุก มีสีสัน ตลอดจนเป็นสิ่งประดิษฐ์ที่คิดค้นขึ้นใหม่หรือดัดแปลงและพัฒนาปรับปรุงจากอุปกรณ์เครื่องมือการทำงานเดิม และไปพัฒนาเป็นนวัตกรรมชิ้นใหม่ และใช้งานได้จริงตามวัตถุประสงค์ของนวัตกรรมสิ่งประดิษฐ์ โดยแบ่งออกเป็น 2 ลักษณะ ดังนี้ > สิ่งประดิษฐ์ที่คิดค้นขึ้นใหม่ > สิ่งประดิษฐ์ที่พัฒนาหรือปรับปรุงแก้ไขขึ้นใหม่จากอุปกรณ์เครื่องมือการทำงานเดิม
หลักเกณฑ์การส่งนวัตกรรมเข้าร่วมโครงการ 1. ผู้ส่งนวัตกรรมสุขภาพเข้าร่วมการพิจารณาคัดเลือกต้องเป็นบุคลากรหรือหน่วยงานสาธารณสุขเท่านั้น การส่งนวัตกรรมเข้า ร่วมโครงการต้องส่งในนามของ CUP (Contracting Unit for Primary Care) และสามารถส่งได้ไม่เกิน 3 ชิ้นผลงานต่อ หนึ่ง CUP 2. ผลงานนวัตกรรมสุขภาพที่ส่งเข้าร่วมการพิจารณาเพื่อจัดแสดงจะต้องครอบคลุมใน 2 ประเภทหลัก คือ ประเภทที่ 2.1) นวัตกรรมสุขภาพเชิงระบบการบริหารจัดการและการให้บริการสุขภาพ หรือประเภทที่ 2.2) นวัตกรรมสิ่งประดิษฐ์ โดยต้องเป็นนวัตกรรมสุขภาพที่ช่วยในการพัฒนางานประจำ มีความคิดสร้างสรรค์และมีพลัง ดึงดูดให้ผู้คนสนใจ รวมทั้งกระตุ้นให้เกิดการคิดประดิษฐ์และพัฒนานวัตกรรมสุขภาพหรือเทคโนโลยีที่เหมาะสมใน ระบบบริการปฐมภูมิต่อไป 3. สรุปรายละเอียดของนวัตกรรมเป็นเอกสารโดยสังเขป ความยาวไม่เกิน 5 หน้ากระดาษ A4 4. ผู้ส่งนวัตกรรมเข้าร่วมแสดงจะต้องกรอกรายละเอียดชื่อ-นามสกุล หรือหน่วยงาน ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ที่ติดต่อได้ให้ครบ ถ้วน ชัดเจน 5. นวัตกรรมอาจเคยได้รับคัดเลือกหรือประกวดในระดับจังหวัด อำเภอ ตำบล หรือระดับเขตมาก่อนได้ 6. ผู้ส่งนวัตกรรมเข้าร่วมโครงการหรือหน่วยงานยินดีปฏิบัติตามกติกาตามที่ระบุข้างต้นทุกประการ 7. การคัดเลือกของคณะกรรมการถือเป็นที่สิ้นสุดการรับสมัครและประกาศผลนวัตกรรมที่ได้รับคัดเลือก > เปิดรับสมัครตั้งแต่บัดนี้จนถึง 30 พฤศจิกายน 2551 > นวัตกรรมที่ได้รับการคัดเลือกจะแจ้งผลให้ทราบในเดือนธันวาคม 2551 ทาง www.shi.or.th และทางโทรศัพท์ > นวัตกรรมที่ได้รับคัดเลือกจะนำไปจัดแสดงในงาน “Community Health & Primary Care Expo 2009” ในวันที่ 18-20 กุมภาพันธ์ 2552 เวทีระดับชาติของคนทำงานสุขภาพปฐมภูมิ พร้อมรับรางวัล โล่เกียรติยศ และประกาศนียบัตร > ทางคณะผู้จัดงานจะสนับสนุนงบประมาณการจัดแสดง > ผู้เข้าร่วมนำเสนอนวัตกรรมไม่เสียค่าลงทะเบียนเข้างาน (ส่วนค่าที่พักและค่าเดินทางเบิกจากทางต้นสังกัด) > นวัตกรรมที่ได้รับการคัดเลือกจัดแสดงจะนำไปพิมพ์เอกสารเผยแพร่ผลงานนวัตกรรม และลงในนิตยสารสุขศาลา นิตยสารเพื่อคนทำงานสุขภาพปฐมภูมิ