เรื่องเล่าจินตนาการสุขภาพใหม่ ปีที่ 2
เขียนโดย
อาทิตย์ 04 มกราคม 2552 @ 12:19
ตัวอย่างเรื่องเล่าเข้ารอบ
จากแม่ฮ่องสอน
ผ้าทอ
จักรพงษ์ ศรีเมือง
สถานีอนามัยบ้านสบเมย
อำเภอสบเมย จังหวัดแม่ฮ่องสอน
“หมอ เราเป็นอะไรไม่รู้ อ่อนเพลีย กินข้าวอร่อย แต่ขี้เกียจ”
“ท้องหรือเปล่า” ผมถาม
“หมอ เราจะท้องได้อย่างไร เลือดเราหมดแล้ว” ดาวลอยเถียงด้วยท่าทีเหมือนจะเดินเข้ามาทุบผม
ผมนึกถึงเหตุการณ์ที่ผ่านมา ดาวลอยมาบอกว่าจะเลิกกินยาคุม อายุมากแล้ว
ผมตอบกลับไปว่า อายุของดาวลอยยังไม่ถึงเกณฑ์ที่ประจำเดือนจะหมด เพียงแต่ดาวลอยทำงานหนัก ถางหญ้า ฟันไร่ ทำให้ดูแก่เร็ว
ผลการตรวจปัสสาวะปรากฏว่าเธอท้องจริงๆ
“เอาออกได้มั้ย หมอมียามั้ย”
“เรื่องพวกนี้ หมอไม่ยุ่ง หมอมีหน้าที่ดูแล ไม่ใช่มีหน้าที่ทำลาย ไปปรึกษาพ่อเด็กก่อนนะ จะเอายังไง คุยกันให้ดี แล้วค่อยมาฝากท้องอาทิตย์หน้าก็ได้”
ท้องที่เก้าของดาวลอย ในวัย 40 ปี ถือว่าอยู่ในภาวะเสี่ยง ผมและหมอจิ๋วแวะไปเยี่ยมบ้านของเธอ “ทำอะไรอยู่” ผมทักเมื่อเดินมาถึงบ้านดาวลอย “กำลังทอผ้าจ้ะหมอ จะทำเสื้อกะเหรี่ยงให้ละวา” “เสื้อตัวเดิม มันเก่าแล้วหมอ ตั้งใจว่าจะทำให้ลูกมันนานแล้วล่ะ”
“หมอมาเยี่ยม จะมาบอกให้ไปคลอดลูกที่โรงพยาบาล” สามีนั่งเคี้ยวหมากอยู่ข้างเตาไฟ บอกพวกเราว่าไม่มีเงิน เพราะลูกชายคนโตที่ไปรับจ้างทำงานที่กำแพงเพชรยังไม่กลับมา
“หมอมาช่วยหมอตำแยทำคลอดให้เมียเราด้วยนะ ถ้าเมียเราเจ็บท้อง เราจะให้คนไปตาม”
ไม่ว่าเราสองคนจะพยายามพูดยังไง จะออกเงินให้ก่อน คู่สามีภรรยายังคงยืนกรานคำเดิม จนเราสองคนยอมแพ้
หมอจิ๋วหยิบชุดทำคลอดฉุกเฉินให้ดาวลอย เผื่อหมอตำแยมาถึงก่อน จะได้หยิบใช้ได้เลย วันนั้นเราลากลับไปด้วยความไม่สบายใจ
“เราทำดีที่สุดแล้ว” ผมบอกกับหมอจิ๋ว พร้อมกับรำพึงในใจ
บ่ายแก่ แดดกำลังร้อนจ้า จู่ๆ เมฆก็ดำทะมึน ปกคลุมเต็มท้องฟ้า สักพักฝนตกห่าใหญ่ ชาวบ้านพะละอึ วิ่งกระหืดกระหอบขึ้นมา
“หมอๆ ไปดูดาวลอยหน่อย รกค้าง เด็กตายแล้ว”
หมอจิ๋วและหมอเก่ง รีบจัดอุปกรณ์ต่างๆ น้ำเกลือ เครื่องวัดความดัน บิดรถจักรยานยนต์ไปท่าเรือ ท่ามกลางสายฝนที่กระหน่ำไม่ขาดสาย
ทารกเพศชายห่ออยู่ในผ้าคล้ายคนนอนหลับข้างๆ แม่ เลือดแดงฉานไหลนองพื้นบ้าน สายรกคายังคาที่หว่างขาดาวลอยผู้เป็นแม่ เธอนอนหน้าซีด หายใจรวยริน
“ชีพจรอ่อน หาเส้นเลือดไม่เจอ” หมอจิ๋วบอก พยายามอยู่นาน กว่าจะหาเส้นเลือดได้ “เตรียมเรือออก หมอจะพาไปส่งโรงพยาบาล” หมอเก่งตะโกนบอกชาวบ้าน แต่หลังจากเติมน้ำเกลือได้เพียง 10 นาที ดาวลอยก็สิ้นลมท่ามกลางเสียงร้องไห้โหยหวนของลูกๆ ที่วิ่งเข้ามากอดศพแม่
หมอเก่ง หมอจิ๋วพูดอะไรไม่ออก ได้แต่มองหน้ากัน แล้วทรุดนั่งอย่างอ่อนแรง
ฝนตกลงมาอีกครั้ง เสียงร้องไห้ดังแข่งกับสายฝนที่ไม่ขาดสาย พ่อละวาน้ำตาคลอเบ้า เดินอุ้มศพทารกน้อยไปยังแม่น้ำสาละวิน
หมอเก่ง หมอจิ๋ว เดินซึมขึ้นมาบนอนามัย รายงานเหตุการณ์ที่ผ่านมาด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ ผมตกตะลึงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น คอหอยตีบตัน พยายามปลอบน้องและตัวเองว่าเราทำดีที่สุดแล้ว
คืนนั้น ภาพของดาวลอยตั้งแต่รู้จักกันใหม่ๆ จนถึงวันสุดท้ายที่เจอวนเวียนอยู่ในความคิดของผมตลอดเวลา
ฝนซาแล้ว แต่เสียงร่ำไห้จากบ้านดาวลอยยังคงทำหน้าที่ประกาศความโศกสลด
ละวาเดินไปหยิบผ้าทอสีแดงที่แม่ทอค้างไว้ ดวงตาเปียกชื้นเหม่อลอย จับผ้าผืนน้อยแนบอก
แม่จ๋า ผ้าทอที่ค้างอยู่ พรุ่งนี้ใครจะทอ ...
|